|
|
ดื่มน้ำจากขวดพลาสติกตากแดดนานๆ เสี่ยงเป็นมะเร็ง จริงหรือไม่?
ประเด็นเรื่องการดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่วางทิ้งไว้ในรถยนต์ที่จอดตากแดด หรือขวดน้ำที่ถูกวางตากแดดเป็นเวลานาน ความร้อนจะส่งผลให้สารเคมีอันตรายละลายออกมาปนเปื้อนในน้ำ และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เรื่องนี้มีข้อเท็จจริงอย่างไรบ้าง?
คำถาม
การดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่วางตากแดดไว้เป็นเวลานาน หรือเก็บไว้ในรถยนต์ที่จอดกลางแจ้ง ทำให้สารเคมีละลายออกมาปนเปื้อนจนเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งจริงหรือไม่?
การตรวจสอบ
ในกระบวนการผลิตขวดน้ำดื่มพลาสติกที่ใช้กันทั่วไป ทั้งชนิดพอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET), พอลิพรอพิลีน (PP) และพอลิคาร์บอเนต (PC) ไม่ได้มีการใช้สารไดออกซิน (Dioxin) และสารทาเลต (Phthalate) เป็นส่วนประกอบในการผลิต ดังนั้นจึงไม่มีโอกาสที่สารพิษเหล่านี้จะปนเปื้อนออกมาตามที่มีการกล่าวอ้าง สำหรับสารบีสฟีนอลเอ (BPA) แม้จะมีการใช้เป็นสารตั้งต้นในพลาสติกชนิดพอลิคาร์บอเนต (PC) แต่กระทรวงสาธารณสุขได้มีประกาศฉบับที่ 435 พ.ศ. 2565 เพื่อควบคุมคุณภาพมาตรฐานของภาชนะบรรจุอาหารที่ทำจากพลาสติกอย่างเข้มงวด โดยมีการตรวจวิเคราะห์ความปลอดภัย ทั้งการแพร่กระจายของโลหะหนักและสารตั้งต้นต่างๆ ให้อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
นอกจากนี้ ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันยังไม่พบหลักฐานยืนยันว่าอุณหภูมิที่สูงขึ้นภายในรถยนต์จะสามารถทำให้สารเคมีในขวดพลาสติกทำปฏิกิริยาจนเกิดเป็นสารไดออกซินได้ ซึ่งที่ผ่านมามีเพียงบางงานวิจัยที่ระบุว่าต้องใช้ความร้อนสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส ต่อเนื่องนานถึง 11 เดือน จึงจะพบการละลายของสารบางชนิดเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่เกิดขึ้นได้ยากมากในการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป
ข้อเท็จจริง
ข้อมูลดังกล่าวเป็นข่าวปลอมและไม่เป็นความจริง การดื่มน้ำจากขวดพลาสติกที่วางตากแดดในรถยนต์ไม่ส่งผลให้เกิดโรคมะเร็ง เนื่องจากไม่มีสารไดออกซินในพลาสติก และมาตรฐานการผลิตขวดน้ำดื่มในปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานรัฐ
อ้างอิง
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา |
|